เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ตรงของผม มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้วด้วยความ ไม่ได้ยับยั้งชั่งใจ ของคนสองคน ผมขอย้อนท้าวความนิดนึง ครอบครัวของผมอยู่กัน 4 คน มีพ่อแม่ พี่ชายผมและตัวผม พี่ชายของผมอายุ 45 ส่วนผมอายุ 35 ปี ซึ่งห่างกัน 10 ปี พี่ชายของผมเป็นแฟนคนนึง ชื่อว่าก้อย ทั้งคู่มีแผนว่าจะสั่งแกงกัน ในปลายปีนี้ซึ่งกำหนดการก็ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม แล้วในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ทั้งคู่ก็จองทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเป็นที่เรียบร้อย
พี่ชายของผม หลังจากที่เรียนจบ ก็สอบบรรจุติด เป็น ข้าราชการ ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง อยู่ที่จังหวัดนนทบุรี ส่วนพี่ก้อย ก็ทำงาน เป็นสาวออฟฟิศอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ทั้งคู่เป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย ทั้งคู่ทำงานเก็บเงินสร้างตัวกันมา จากไม่มีอะไรเลยจนตอนนี้ ทั้งคู่มีรถยนต์คนละ 1 คันและปลูกบ้านที่จะไปเรือนหอ อยู่ถัดจากบ้านผมที่ผมยังอยู่กับพ่อและแม่ไม่กี่หลัง
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น วันนั้น พี่ชายของผม ต้องไปอบรมต่างจังหวัดเป็นเวลา 20 วัน ส่วนพี่ก้อยแฟนของพี่ผมก็จะกลับบ้านที่ปลูกใหม่ทุกเสาร์อาทิตย์ โดยปกติก่อนหน้านี้ก็จะเดินทางกลับมาพร้อมกับพี่ชายผมอยู่แล้ว ซึ่งบ้านของพ่อแม่พี่ก้อย ก็อยู่ในจังหวัดเดียวกับผมแต่บ้านของพ่อแม่พี่ต้อยจะอยู่ชานเมือง ต้องขับรถไปประมาณ 10 นาที ซึ่งเธอก็ต้องกลับมาดูแลพ่อแม่ ในวันหยุดอยู่แล้ว
ซึ่งวันนั้นผมก็ไม่รู้ว่าพี่ชายผมไม่กลับมาด้วย ช่วงบ่ายๆ ของวันนั้นผมก็เดินเอากับข้าว ไปให้ตามการไหว้วานของแม่ผม ผมก็เปิดประตูรั้ว เดินเข้าไปในบ้านพี่ชายตามปกติเหมือนทุกครั้ง ผมเปิดประตู เห็นพี่ก้อยกำลังเย็น ทำคัพเค้ก ขนมที่พี่ชายของผมชอบกิน อยู่ในห้องครัว ที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น
พี่ต้อยแม่ให้ออก แกงป่ามาให้ เต้ เลยใส่หม้อเล็กๆมาให้พี่ แล้วพี่เจมส์ไม่มาเหรอ บ้านเงียบเชียว
ไม่มาสิ พี่มาคนเดียวเพราะว่าเย็นนี้เป็นวันเกิดแม่พี่พี่จะพาไปกินข้าวเย็น พี่เจมส์ต้องไปอบรม 2 อาทิตย์ พี่ก้อยบอกผม
เอ่อเต้ พรุ่งนี้ว่างไหม พี่ก้อยถามผม
ว่างพี่ ผมต่อพี่ก้อยกลับไป
ดีเลยถ้างั้นช่วง สายๆ ออกไปซื้อต้นไม้กับพี่หน่อย พอดีพี่ยกคนเดียวไม่ไหว พี่เจมส์สั่งร้านไว้ประมาณ 6-7 กระถางใหญ่ๆ พอดีพี่เจมส์จะลงต้นไม้เพิ่ม พี่ก้อยบอกผม
ได้พี่งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆเราเจอกัน ผมบอกพี่ก้อย แล้วก็เดินออกจากบ้านไป
พอวันรุ่งขึ้น ผมก็เดินไปหาพี่ก้อยตามที่นัดแนะกันไว้
วันนั้น หลังจากที่ซื้อต้นไม้เสร็จ ช่วงเที่ยงๆ เราก็แวะคาเฟ่ร้านประจำ ที่ผมกับพี่ก้อยและพี่ชายของผมเราไปนั่งกินกันบ่อยๆ
วันนั้นเราก็ติดตามปกติ เหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้สายตาของผม มันสังเกตเห็น เวลาที่ก้อยกุ้ง กินอาหาร หรือดื่มน้ำ และด้วยความที่พี่ก้อยใส่เสื้อคอวีที่เป็นคอค่อนข้างลึก ทำให้ผมได้เห็น ร่องอก ขาวๆของพี่ก้อย ซึ่ง ก็เป็นเรื่องปกติเพราะพี่ก้อย เป็นลูกสาวครอบครัวคนจีน
แล้วหลังจากที่กินข้าวเสร็จ เราก็เดินทางกลับบ้าน ตอนแรกผมก็กะจะช่วยเอาต้นไม้ลง แล้วเดินกลับบ้าน แต่ผมเห็นพี่ก้อย ถือเสียมถือจอบมา
พี่จะทำคนเดียวไหวหรอต้นไม้ก็ต้นใหญ่นะ ผมถาม
พี่ก้อยตัดผมกับมาว่า มันก็ต้องทำเลยป่าววะ ถ้าไม่ลงดินพี่ว่ามันตายแน่ จะรอพี่เจมส์มาแล้ว ไม่น่าจะทัน อีกตั้ง 2 อาทิตย์ กว่าจะพี่เจมส์จะกลับมาบ้าน
งั้นเดี๋ยวเต้ช่วยแล้วกัน ผมบอกพี่ก้อย แล้วเราทั้งคู่ก็ช่วยกัน เอาต้นไม้ลงดิน กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป ประมาณเกือบ 18:00 น พี่ก้อยก็เลยบอกว่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวแล้วกัน เรานี่แหละแล้วพี่ก้อยกับคว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์ ออกไปตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน สักประมาณครึ่งชั่วโมง มันก็จะกลับเข้ามา มีกับข้าว 2-3 อย่าง พร้อมกับเบียร์ 3 ขวด
โหพี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ จะกินจนหมดหรอ 2 คนเอง ผมพูด
พี่ก้อยตอบผมกลับมาทันที หมดอยู่แล้ว เหนื่อยขนาดนี้ ไหนๆก็ไหนๆ นานๆทีจะกินเบียร์ขอจิ๊บให้ชื่นใจ แล้วพี่ก้อยก็หยิบโต๊ะญี่ปุ่นมากางที่พื้นส่วนผมก็เดินไปหยิบแก้วและจาน มานั่งกินพร้อมกับดูทีวี หลังจากที่กับข้าวหมด แล้วก็ยกไปเก็บ เลยนั่งกินเบียร์กันต่อ
อยู่ๆบรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็เปลี่ยนไป อยู่ๆกับพี่ก้อย ก็ขยับมานั่งข้างผม
พี่ก้อยพูดขึ้นมา ดูสิไม่ได้กินนานแล้ว หน้าพี่แดงใช่ไหม เธอพูดแล้วยิ้มออกมา แล้วอยู่ๆเธอก็ซบไหล่ผม ตอนนั้นผมงงนะตกใจ ผมหันหน้าไป มองพี่ก้อย อยู่ๆพี่ก้อยก็จูบปากผม แล้วเธอ ก็เห็นตัวลงนอน ส่วนมือของเธอ ก็จับ ที่หัวผม กอดคอผมมานอนพร้อมกับเธอ
ตอนนั้นเราทั้งคู่จูบปากแลกลิ้นกัน ส่วนมือของผมก็ลูบไล้บริเวณหน้าท้องของพี่ก้อย
แล้วตอนนั้นเราทั้งคู่ก็ลุกขึ้น เดินไปที่โซฟาใช้ระยะทางประมาณ 3 ก้าว เพียงเท่านั้น แล้วพี่ก้อยก็ดัน พนักงานพิงโซฟา ลงพร้อมกับเป็นเตียงนอน
แล้วเธอก็นอนบนโซฟา ส่วนผมก็คุกเข่าก้มหน้าจูบปากพี่ก้อย ต่อจากนั้นผมก็เอามือของผมจับที่หน้าอกของเธอ
แล้วก็ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ขาสั้น พร้อมกับดึงกางเกงยีนส์ขาสั้นของพี่ก้อยออก พี่ก้อยใส่กางเกงใน ลูกไม้สีชมพู
แล้วพี่ก้อย ก็กางขาพร้อมกับตั้งขาของตัวเอง ผมไม่รอช้าถอดกางเกงในของพี่ก้อยออก หีของพี่ก้อย เนียนสะอาด ไม่มีขนหมอยแม้แต่เส้นเดียวผมไม่รอช้าที่จะใช้ลิ้นเลียที่เม็ดแตดของเธอ
อือ อือ อือ พี่ก้อยร้องครางออกมา พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ต่อจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา พี่ก้อยก็ลุกนั่ง พร้อมกับถอดเสื้อของเธอออก พี่ก้อยใส่เสื้อชั้นในสีครีมผมไม่รอช้าที่จะไปด้านหลังของเธอพร้อมกับปลดตะขอเสื้อใน หน้าอก ที่ขนาดพอดีมือ พร้อมกับหัวนมสีชมพูอ่อน ที่ตัดกับผิวขาวของเธอ แล้วผมก็ใช้มือ จับที่หน้าอกของเธอจากด้านหลัง และมีอีกข้างนึงผม ก็ลูบไล้สัมผัส ที่เม็ดแตดของเธอ สลับกับใช้นิ้วสอดใส่เข้าไป
เต้พี่เสียวจัง พี่ก้อยพูดออกมาพร้อมกับร้องคราง อือ อือ อือ ออกมา
เวลาผ่านมาชั่วครู่ ผมก็ลุกยืนแล้วเดินไปหาพี่ก้อย แล้วพี่ก้อยก็ปลดกางเกงยีนส์ของผมออก และถอดกางเกงในของผม เธอจ้องมองมาที่ควยของผม พร้อมกับใช้มือรูดขึ้นลงช้าๆแล้วเอามันเข้าปากของเธอ
ควยใหญ่จังนะเต้ ใหญ่กว่าของพี่แกอีก พี่ก้อยพูดออกมา หลังจากนั้นเธอก็สลับใช้ลิ้นเลียที่ลำควย ไปถึงไข่ของผม
พี่ก้อยใส่ปากทำให้ผมอยู่หลายนาที
ต่อจากนั้นเธอก็ลุกแล้วไปนอนที่เตียง ผมไม่รอช้า ไปที่ด้านหลังของเธอจากเธอในท่านอนตะแคง ผมจับเธอเย็ดในท่านอนตะแคงจากด้านหลัง
โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย เสียวหี โอ๊ย โอ๊ย พี่เสียว พี่เสียวมาก โอ๊ย โอ๊ย พี่ก้อยร้องครางออกมา
หลายนาทีหลังจากนั้น ผมก็จับเธอมาอยู่ในท่าหมา
โอ๊ย ทนไม่ไหวแล้วพี่เสียวมาก โอ๊ย โอ๊ย พี่ก้อยร้องครางออกมาตลอดเวลา
แล้วผมก็เริ่มเย็ดแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่เย็ดเก่งไหมพี่ก้อยพี่ก้อยชอบไหม ผมถามพี่ก้อย
ชอบสิเต้เย็ดเก่งมากพี่เสียวหี พี่เสียวใจจะขาดแล้ว เย็ดพี่แรงๆอีก แล้วพี่ก้อยก็ร้องครางออกมาตลอดเวลาหลังจากที่พูดจบ
หลังจากนั้นประมาณเกือบ 10 นาที ผมก็บอกพี่ก้อยว่า ทำให้เต้หน่อย เต้เหนื่อยแล้ว
เธอไม่รอช้า ที่จะขึ้นคร่อมขย่มควยผม โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย พี่ก้อยร้องดังลั่นบ้าน ในขณะที่กำลังขย่มควยผมอย่างเมามัน
แต่พี่จะแตกแล้วพี่ไม่ไหวแล้วพี่เสียวสุดๆพี่ทนไม่ไหวแล้ว เธอพูดออกมาแล้วเธอก็ร้องคราง โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย แล้วเธอก็ขย่มแรงขึ้น ไม่ถึงนาทีเธอก็ถึง สุดยอดพี่ก้อยน้ำแตก หีของพี่ก้อยตอดรัดเขม่นดูดควยผมเป็นจังหวะ
ส่วนผมก็ใกล้จะเสร็จเหมือนกัน เลยกระแทกเน้นๆแรงขึ้น เหมือนพี่ก้อยจะรู้เลยพูดออกมาว่า อย่านะอย่าแตกในพี่นะไม่เอาเดี๋ยวพี่ท้อง
แล้วเธอก็ยกตัวออกจากควยผม พร้อมกับก้มหน้าใช้ปากอมควยให้ผมอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมน้ำจะแตกพอดี ผมไม่รอช้าปล่อยน้ำของผมเข้าไปในป่าพี่ก้อยทันที พี่ก้อย ดื่มกินน้ำของผมจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
เราทั้งคู่นอนหอบหมดแรงอยู่บนโซฟา แล้วพี่ก้อยก็บอกกับผมว่า อย่าให้พี่แกรู้เด็ดขาดนะ แต่งตัวได้แล้วเดี๋ยวที่บ้านจะสงสัย ว่าทำไมกินข้าวนานจัง แล้วผมกับเธอ ต่างก็แต่งตัวผมก็แยกย้าย กลับบ้านทันที
และในวันนี้ก่อนที่ผมจะพิมพ์ ก็เป็นวันที่พี่ก้อย กลับมาที่บ้านโดยที่พี่ชายของผม ยังไม่กลับจากต่างจังหวัด จะกลับก็อาทิตย์หน้า ก็เป็นเวลาที่ผมพึ่งเอากับพี่ก้อยเสร็จเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี่เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น